FF ภาคใดที่สะท้อนภาพลักษณ์ (concept) เกี่ยวกับ "มิตรภาพ" ?

ตอบ ก็ FF5 อีกนั่นแหละ

สำหรับผู้ตอบ FF6 ผมก็คงให้เหตุผลเดียวกับ FF4 เพราะ FF6 จะเน้นเครื่องยึดเหนี่ยวใจ ปรัชญาชีวิต จุดมุ่งหมายการเดินทางของแต่ละคนมากกว่า ตัวอย่างเช่น
- ทีน่าผู้ไร้อารมณ์ออกเดินทางเพื่อหาคำตอบ พิสูจน์ให้ประจักษ์ว่าความรักคืออะไร
- เซริสผู้เดียวดายติดตามเพราะเชื่อมั่นอย่างยิ่งยวดว่า ล็อคจะคอยปกป้องให้ความสำคัญกับเธอตามคำสัญญา
- ไกเอนร่วมขบวนการเพื่อแก้แค้นให้ลูกเมียและอาณาจักรของตน
- ชาโดว์ เกาว์ อูมาโร่ เซทเซอร์ หรือแม้กระทั่งริลม์ล้วนมีเหตุผลของตัวเองที่ไม่ขึ้นอยู่กับใคร

ทุกคนดำเนินชีวิตต่อไปเพื่อแสวงหาสิ่งที่มีค่าควรแก่การปกป้องในมุมมองของตนเอง เซรีสอยู่ได้เพราะล็อค เมื่อคิด ว่าล็อคตายหลังโลกพินาศ ซิดคือผู้ค้ำจุนจิตใจคนสุดท้าย เมื่อซิดตาย เซริสตัดสินใจกระโดดหน้าผา จนพบผ้าพันคอ ของล็อค กำลังใจก็หวนกลับมาอีกครั้ง ในโลกอันแห้งแล้ง ความปรารถนาคือแรงบันดาลใจแหล่งสุดท้าย ข้อสรุปปรากฏก่อนการตัดสินกับเคฟก้า ทุกคนได้เปิดเผยความในใจ และคำตอบที่ตนเองค้นพบในช่วงเดินทางร่วม กันออกมาชัดเจน

"ความหวัง" จึงน่าจะเหมาะกับภาพลักษณ์ของ FF6 เหนือกว่าสิ่งอื่นใด

คราวนี้หันกลับมาดู FF5 ในฉากจบใครจำได้มั่ง ? ตอนที่เคล (คูลูลู) ส่งจดหมายไปหาซิดกับมิดเพื่อ ฝากนัดพวกบัทซ์ที่แยกย้ายไปแล้วหลังเสร็จภารกิจ ให้มารวมตัวกันอีกครั้งที่ต้นไม้ใหญ่ มีเนื้อความเชื้อ เชิญมากราบศพกราฟ ตามเจตนา จดหมายนั่นเป็น อุบายเรียกทุกคนมาเพราะเธอเหงามาก พอวันนัด หลังจากกราบศพกราฟเสร็จ ปรากฏว่าไม่มีใครมา เลยซักคน เคลก็เสียใจเพราะเธอเหงาเหลือเกิน นึกว่าทุกคนทอดทิ้งกันหมดแล้ว แต่ความจริงทุกคนแอบซุ่มดูอยู่หวังจะหยอกเล่น เลยออกมาปลอบ โดยบัทซ์ได้ให้กำลังใจว่า "พวกเราอุตส่าห์ร่วมฟันฝ่าอุปสรรคมาด้วยกันตั้งนาน เป็นเพื่อนแท้ จะลืมกันได้อย่างไรเล่า"
เคลดีใจมาก ว่าแล้วก็มุ่งหน้าออกผจญภัยตาม หน้าที่อีกครั้ง

FF5 ไม่เคยทิ้ง concept นี้ตั้งแต่ต้นยันจบเลยครับ แค่นี้ก็ชัดพอสมควร แต่เพื่อความหนักแน่น ขอให้ดูซีดีเพลง ปรับปรุงของ FF5 ที่เลือกใช้ชื่ออัลบัมว่า "Dear Friends" (แด่เพื่อนที่รักทุกคน) มีบทสัมภาษณ์ของคุณโนบุโอะ อุเอมัตสึ (Nobou Umatesu) ที่เขาขอบคุณบรรดาเพื่อนผู้ช่วยเหลือให้ทำซีดีนี้ได้สำเร็จลุล่วง แล้วเปรียบเปรยว่า เข้ากับ concept ของ FF5 ซึ่งเขาใส่พลังลงเต็มที่ในการแต่งเพลง

สำหรับผู้อยากรู้ เพลงหลักของ FF5 มี 2 เพลงคือ "Ahead on Our Way" ซึ่งแสดงถึงความหวังที่จะ ช่วยอุ้มชู ฝ่าฟันกันไปข้างหน้า ใช้เป็นเพลงไตเติล กับเพลง "Dear Friends" ตามที่อธิบาย ถูกใช้เป็นฉากจบ บรรเลงด้วยเสียงกีตาร์ ส่วนเพลงหลักของ FF4 ที่ยังไม่ได้กล่าวถึงคือ "Main Theme of Final Fantasy IV"

เปิดประเด็น

สามสาวในภาค 5 น่ะมีใจให้ตาบัทซ์กันทุกคนเลยไม่ใช่หรือเฮีย ?

เป็นไปได้ครับ สาวๆ ทั้งสามอาจหลงรักบัทซ์อยู่ก็ได้ แต่ไม่มีเหตุผลและหลักฐานสนับสนุนพอที่จะสรุปข้อสันนิษฐาน นี้ได้อย่างมั่นใจ ที่สำคัญ ประเด็นที่เกี่ยวกับคำถามข้อนี้มีเพียงว่าความรักชนิดใดโดดเด่นกว่ากัน นอกนั้นคิดเอาเอง สนุกๆ นะครับ ภาคนี้เน้นบรรยากาศแบบสบายๆ ระหว่างเพื่อนฝูงหลายฉาก ไม่มีฉากโรแมนติก ฉากเข้าข่ายที่สังเกตุ มีสื่ออ้อมๆ อยู่บางฉาก เรามาไล่พิจารณากันทีละตัวละครไปเลยดีกว่า

กรณี เลน่า นางเอกขวัญใจผม สังเกตุเห็นว่าแอบมีใจให้บัทซ์เหมือนกัน อย่างน้อยก็ชื่นชมในตัวบัทซ์ และซาบซึ้ง ที่บัทซ์เคยช่วยชีวิตเธอไว้ช่วงต้นเรื่อง แต่จะรักรึเปล่านี่เดาไม่ออก คือเวลาจะแยกจากกันทีไร เธอมักหันกลับหลังมา มองบัทซ์อยู่เสมอ พฤติกรรมนี้จะสรุปง่ายๆ ว่าเธอหลงรักบัทซ์ได้จริงรึ ? ความเป็นจริงยังคลุมเครือ แถมความ สัมพันธ์ของเลน่าและบัทซ์ไม่ค่อยมีผลสะเทือนถึงเนื้อเรื่องเสียด้วย บุคคลิกอย่างเลน่า น่าจะเป็นประเภทพยายามสื่อ ด้วยคำพูดมากกว่าท่าทาง แต่ที่แน่ๆ ห้องหัวใจทั้งสี่เธอยกให้ฮิริวไปหมดแล้ว จะเหลือที่ว่างสำหรับพระเอกของเรา รึเปล่านะ ไปคิดกันเล่นๆ ต่อเอาเองครับ

กรณี ฟาริส หัวหน้าสลัดผู้เย็นชา อันนี้จินตนาการไม่ออกแฮะ หลังจากนึกทบทวนดูหลายตลบ ภาพความสัมพันธ์ ระหว่างฟาริสและบัทซ์ที่ผุดขึ้นมาในสมองภาพแรกคือ ตอนที่บัทซ์เข้าไปเจอฟาริสหลับอยู่แล้วตกใจน้ำลายหก เพราะเห็นท่านอนที่มีสเน่ห์เย้ายวนรัญจวนใจจนหัวใจหลุดลอยออกมา และจากแรงบันดาลใจข้างต้น จึงเกิดตอนที่ บัทซ์กับกราฟพยายามจับฟาริสแก้ผ้าในสุสานเรือตามมา (หัวงูทั้งคู่จริงๆ) อีกตอนหนึ่งก็ตอนที่ทุกคนกลับปราสาท ไทคูน มีงานฉลองเอิกเกริกซึ่งฟาริสแต่งชุดราตรีเต็มยศ กระชากหัวใจน้อยๆ ของหนุ่มบัทซ์อีกครั้ง (รู้สึกจะไม่พ้น แนวนี้แฮะ) และสุดท้ายที่นึกได้ ก็คราวที่บัทซ์กับคูลูลูติดอยู่ในโพรงของอันโทริออน ทำเสียงตะกุกตะกักกันอยู่ คนที่หย่อนเชือกลงมาช่วยคือฟาริส แต่เธอเล่นดึงขึ้นดึงลงไปมา ทำนองหยอกล้อ เพื่อให้บัทซ์รับผิดที่ขับโจโกโปะ ตกหลุม หรือไม่ก็ไม่พอใจหน่อยๆ ที่เห็นบัทซ์กับคูลูลูอยู่ในโพรงสองต่อสอง (เพราะคิดว่าพวกนี้มันลงไปทำซาก อะไรในโพรงเนี่ย) เห็นทั้งบัทซ์และคูลูลูเหงื่อแตกแก้ตัวพัลวันเชียว กรณีนี้ก็คาดเดากันไป แต่ถ้าจะสรุปว่า ฟาริสหลงรักบัทซ์ เราสรุปว่าสองคนนี้เพื่อนซี้กันไม่เหมาะกว่าหรือ ?

กรณี คูลูลู นั้น ชายหนุ่มกับเด็กสาวตากลมผมยาวสองคนนี้ดูภายนอกจะชอบทะเลาะกันบ่อยๆ ที่ติดตา จำได้ว่า ทะเลาะกันนอกปราสาทไทคูน กระแทกกันจนล้มกลิ้ง ดูๆ ไปสองคนนี้แหละสนิทกันเร็วที่สุด กอดคอ เขกหัว หัวเราะ ร้องไห้ด้วยกัน แต่จะเป็นแบบพี่ชายน้องสาวรึเปล่า ? ในฉากจบคูลูลูให้ความ สำคัญกับเพื่อนทุกคนเท่า เทียมกัน ไม่มีใครพิเศษกว่าใครเลยนี่นา ?!

ขอจบประเด็นนี้ลงอย่างค้างคา ท่านผู้โต้แย้งทั้งหลาย หากมีข้อคิดอะไรเพิ่มเติมก็เสนอเข้ามาได้นะ ผมชอบอ่าน

อิอิ... ยังต้องการเหตุผลอีกหรือครับ ? ข้อนี้ง่ายๆ ทุกคนตอบได้หมดเลย ข้อมูลนี้ได้มาจากบทสัมภาษณ์ ของทีมผู้สร้าง (อีกละ) ถ้าใครเคยอ่านเจอเขาได้กล่าวไว้ว่า FF ทุกภาคจะมี concept หลักในตัวของมันเอง ซึ่งช่วงคิดเนื้อเรื่องของ FF7 อยู่นั้น แม่ของคุณ "ฮิโรโนบุ ซากากุชิ" (Hironobu Sakaguchi) บิดาของ FF ซีรี่ส์ได้เสียชีวิตลงอย่างกระทันหัน พลันให้เขาเกิดปมปัญหาขึ้นภายในใจทำนองว่า มนุษย์เราเกิดมาทำไม ชีวิตมีจุดหมายปลายทางอย่างไร ตายแล้วไปใหน เป็นต้น จึงเสนอให้นำแนวคิดมาผสมผสานเข้ากับเกมส์ FF7 เพื่อไว้อาลัยเสียเลย นิยามของชีวิตใน FF7 ถูกสื่อในหลายกรณี แต่จะเน้นรูปแบบของสังสารวัฏระยะยาวเป็นพิเศษ เช่น การเกิดดับของดวงดาว แดนแห่งพันธะสัญญา การระลึกชาติ ไลฟ์สตรีม แล้วจะให้นึกถึงอะไรอีกเล่า ?!

ตอบ 4 พันธุ์

สีขาว (ใช้เติม MP), เหลือง (เอาไว้ขี่วิ่ง), ม่วง (ใช้บินไปลงบริเวณป่า) และเจ้าโจโกโปะอ้วน (ใช้ฝากไอเทม) มีเท่านี้แหละครับ

FF5 อยู่แถบคาร์นัค ใช้เรือดำน้ำดำลงไปก็จะเจอถ้ำของผู้เฒ่า คอยรวบรวมสถิติการเล่นต่างๆ ของเราไว้ ส่วน FF8 ดูจากเครื่องวัดการต่อสู้ที่ได้มาจากซิด ซึ่งสามารถอัพเกรดได้ที่คุกกลางทะเลทราย เพื่อดูว่า G.F. ตัวไหนปราบศัตรูไปได้กี่ครั้งแล้ว ส่วนใครที่ตอบมาไม่ครบก็ยังอนุโลมให้คะแนนเต็มนะ เพราะข้อนี้โจทย์ไม่ได้ แบ่งเป็นหัวข้อย่อยๆ

ตอบ มี 1 ภาค คือ FF4

อยากให้อ่านคำถามดีๆ ก่อน ผมถามว่า "เมือง" สู่ "เมือง" เพราะฉะนั้น สถานที่อื่นๆ ภายนอกเมือง หรือหมู่บ้านก็ตัดทิ้งได้ทันที ซึ่ง FF4 ดูจะเป็นภาคเดียวที่มีการวาร์ปลักษณะนี้ โดยวาร์ปจากเมือง "บารอน" ไปยังเมือง "มิซิเดีย" โดยใช้เส้นทางเวทย์มนต์ที่เชื่อมถึงกัน บางคนตอบ FF 2, 5 มาด้วย ทำให้ผมสงสัยว่า มันมีด้วยเหรอ ถ้ายังเหลือที่อื่นอีกนอกจาก FF4 ก็รีบท้วงผมนะ อยากทราบรายละเอียดเพิ่ม

เปิดประเด็น

ที่ว่าจากเมืองไปอีกเมืองน่ะภาค 6 ก็มีนะ ยกไปทั้งปราสาทเลยด้วย ก็ปราสาทฟิกาโร่ไง

ตรงนี้มีผู้แย้งมา แต่มีเหตุผลสำคัญ 2 ประการที่ทำให้คำตอบนี้ผิด ดังนี้
(1) ลองดูคำถามให้ดีๆ นา ผมถามถึงการ "วาร์ป" (คือการหายตัวจากที่หนึ่งมาโผล่อีกที่หนึ่งด้วย ความเร็วสูง) แบบจุดวาร์ปที่เห็นดาษดื่นในเกมส์ RPG ทั่วๆ ไปนั่นแหละครับ ซึ่งปราสาทฟิกาโร่ไม่ใช้การวาร์ป เป็นเพียงอาศัยเครื่องยนต์อันซับซ้อนของปราสาทที่สั่งให้ปราสาทดำลงดิน เคลื่อนที่เจาะผ่านใต้ดินได้ เปรียบเสมือน "พาหนะ" ขนาดยักษ์ประเภทหนึ่งเท่านั้น หลักฐานสำคัญซึ่งยืนยันว่าปราสาทฟิกาโร่ใช้การเคลื่อนที่จริงๆ (ไม่ใช่วาร์ป) ก็คือ การเคลื่อนไปพบสุสานโบราณใต้พื้นพิภพ อันเป็นที่สถิตย์ของโอดีนระหว่างเส้นทางเดินของมัน นั่นเอง ซึ่งถ้าวาร์ปจริงๆ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องดำลงดินแต่อย่างใด ทำไมถึงไม่วาร์ปบนพื้น
(2) ปราสาทฟิการโร่ไม่ได้เคลื่อนจาก "เมือง" สู่ "เมือง" ตามคำถาม แต่มันเคลื่อนจาก "ทวีป" สู่ "ทวีป" ถ้าเป็นเมืองสู่เมืองจริง มันต้องโผล่กลางเมืองที่เป็นจุดหมายทีเดียวครับ รับรองว่าเมืองนั้นแหลกแน่ๆ กรณีนี้ชัดเจนว่า ปราสาทเคลื่อนมาโผล่บนแผ่นดินโล่งเตียนซึ่งบังเอิญมีเมืองโกรินเกนตั้ง อยู่ใกล้ๆ ก็เท่านั้น

ตอบ ชื่อ "สเตล่า"

ข้อนี้หินพอสมควร แต่ยังอุตส่าห์ตอบกันถูก เก่งจังแฮะ... ถามผมว่าไปรู้มาจากใหนเหรอ ? ก็ลองอ่านที่ป้าย หลุมศพของแม่บัทซ์ในหมู่บ้านริกส์สิครับ เวลาเล่นไม่รู้จักสังเกตุกันมั่งเล้ย... หา ? มันเป็นภาษาญี่ปุ่นเรอะ ?! งั้นช่วยไม่ได้หล่ะ ตัวใครตัวมัน ถ้าแฟนตัวจริงต้องเล่นจนอ่านคะตะคะนะออก หรือไปควานหาภาค PC กับ Anthology มาเล่นก็เจอแล้วนา อิอิ

ตอบ "เซซิล" พระเอก FF4

ลองรวบรวมข่าวสารในปราสาทบารอนดูดีๆ สิครับ มีทหารเล่าไว้ ส่วนตัวละครอื่นๆ ที่พระราชาเก็บมา ชุบเลี้ยง ปลุกปั้นให้เลอเลิศคิดว่าไม่มีแล้วนะ

ตอบ "เคล" (คูลูลู) หลานสาวกราฟจาก FF5

เห็นใครๆ ก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "ริลม์" ซึ่งผมไม่ได้คาดคิดเหมือนเดิม เลยอยากถามว่า ริลม์แค่เกลียด ผู้ใหญ่ มีนิสัยชอบปลีกตัวอยู่คนเดียวไม่พบปะผู้คน เลยเป็นเหตุให้กิจกรรมยามว่าง คือ การวาดภาพ คลุกคลีอยู่กับ สัตว์เฉยๆ มิใช่หรือ ? เป็นความใกล้ชิดสนิทสนม แต่ไม่ได้มี "พลังวิเศษณ์" ถึงขั้น "พูดคุย" กันรู้เรื่อง รู้ภาษา สัตว์นั้นๆ เหมือนอย่างเคลที่มีพลังนี้มาแต่กำเนิด สามารถคุยกับมังกรบินของเธอเพื่อทราบอาการป่วยได้ อีกทั้งส่ง กระแสจิตไปเจรจากับฝูงมอกคูรี่ในป่าที่พวกบัทซ์หลงเข้าไปได้อีก มีหลายต่อหลายเหตุการณ์พร้อมคำยืนยันเป็น ลายลักษณ์อักษร ถ้าริลม์มีหลักฐานยืนยันแบบนี้ ขอให้เล่าหรือยกคำสนทนาจากปากสตราโกสมาหน่อยนะครับ แล้วจะถือว่าได้คะแนน

ท่านอื่นที่ตอบว่า "เกาว์" ก็น่าคิดนะครับ แต่เกาว์ไม่ได้มีพลังพิเศษอะไรหรอก เป็นมนุษย์ธรรมดา (เป็นลูกของชาย ที่พูดเลอะเลือนในกระท่อม) ตามวิสัยคนป่าทั่วไปที่คลุกคลีกับสิงสาราสัตว์ตลอดชีวิต เลยติดสัญชาติญาณสัตว์ป่า มาด้วย แต่แท้จริงไม่ได้เข้าใจภาษาหรือพูดคุยรู้เรื่องหรอก

ตอบ เหมือน "แอนนาวัยเด็ก"

ข้อนี้มีคนเข้าใจตอบว่าคล้ายแม่ ตลกดีครับ เอาเป็นว่าให้ครึ่งคะแนนสำหรับผู้ตอบละกัน เพราะลูกกับแม่ มันก็ควรจะมีส่วนใกล้เคียงบ้างแหละน่า จริงใหม ? ขอเฉลยว่า คนที่รูปร่างหน้าตาคล้ายริเดียวัยเด็กนั้น ไม่มี ! จึงต้องมาพิจารณาเงื่อนไขที่คำถามกำหนดต่อมาในด้านที่ว่า แล้วเธอเคยถูกเปรียบเทียบกับบุคคลใหนอีกหรือเปล่า ซึ่งกรณีนี้เราจะพบคำตอบในที่สุด

ถ้าใครยังจำบรรยากาศสงบๆ ในถ้ำที่เซซิลเพิ่งเจอกับเทอร่าครั้งแรกคงจำจุดประทับใจตรงนี้ได้ดี เมื่อเดินมา เหน็ดเหนื่อย เทอร่าชวนเซซิลและริเดียให้ตั้งแคมป์ พักผ่อนบริเวณจุดเซฟ ทั้งคู่ก่อไฟขึ้นนั่งผิง ขณะที่ริเดียน้อยนั้น หลับปุ๋ยไปเรียบร้อยแล้ว เทอร่าเพ่งพินิจใบหน้าเธอแล้วกล่าวด้วยความเอ็นดูว่า
"เธอช่างเหมือนแอนนาสมัยเด็กไม่มีผิด" (just like Anna childhood)

อ้าก !! อย่าจับผิดผม ผมรู้แก่ใจว่ามันอาจเป็นคำอุทานที่เปรียบความน่ารักของริเดียว่าเหมือนแอนนาตอนเด็กเฉยๆ ก็ได้ ไม่กี่ยวข้องกับความคล้ายทางกายภาพ ! แต่มันก็อุตส่าห์มีคำพูดนี้หลุดรอดออกมาให้ผมอดถามไม่ไหว น่าจะ เดากันแบบใช้กึ๋นออกนะ เพราะตลอด FF4 มันไม่มีบทพูด ข้อมูลตรงใหนเลยที่อ้างถึงลักษณะความคล้ายคลึง ระหว่างบุคคล ความรู้สึกหมือนกำลังใช้ช่องว่างของกฏหมายมาหลอกลวงเลยครับ อย่างไรก็ตาม มีคนตอบข้อนี้ถูก แสดงว่าคำถามมันก็ไม่เลวร้ายขนาดนั้น แต่คนที่ตอบถูกยอมรับว่าชั้นเซียน กรุณาปล่อยผมซักข้อเถอะ... please...

ตอบ ริลม์

ไม่มีความเกี่ยวพันธ์อันใดจะลึกซึ้งเหนือพ่อลูกไปได้หรอกครับ เพราะผูกพันทั้งสายเลือดและความรู้สึก คำตอบจึงควรเป็นริลม์เพียงคนเดียว แต่สำหรับชาโดว์อาจเป็นกรณียกเว้นทางด้านความรู้สึก เพราะแทบไม่แสดง ออกมาให้เราๆ (หรือตัวละครอื่นๆ) ได้สังเกตุเห็นเลย หากเขาไม่ฝันขึ้นมา

เขาไม่มีความรับผิดชอบที่ทอดทิ้งริลม์ตั้งแต่แบเบาะส่งผลให้ริลม์กลายเป็นเด็กมีปมด้อยกำพร้าทั้งพ่อและแม่ บางทีริลม์คงไม่สำคัญสำหรับเขาเท่าไหร่ จึงอนุโลมสำหรับผู้ที่ตอบว่า "อินเตอร์เซพเตอร์" หรือ "ไคลด์" เพื่อนในอดีตของเขาให้ถูกต้องเช่นกัน มีเพียงครั้งเดียวที่ชาโดว์แสดงตนเข้าช่วยเหลือริลม์ คือตอนที่ริลม์ติดอยู่ใน บ้านที่ถูกไฟไหม้แล้วสลบไป

ตอบ FF 2, 4, 6

มีภาคอื่นหลงเหลืออีกหรือเปล่าครับ ? บางท่านตอบว่ามีหลายภาค เป็นพวกลิ่วล้อหน้าแมว ภาค 6 นี่แคทซิทเป็น มนต์อสูร มีชื่อยืนยันชัดเจน ซึ่งในภาคอังกฤษจะแปลงชื่อเพี้ยนเป็น "Katty" ส่วนภาค 2 กับ 4 จะปรากฏเป็น มอนสเตอร์ตระกูลแมวหรือเสือ

ตอบ "ทีน่า" นางเอก FF6

แสดงว่าแฟนๆ แถวนี้ไม่ค่อยดาว์นโหลดเพลงมาฟังซักเท่าไหร่ นี่เป็นชื่อเพลงร้องอยู่ในซีดีปรับปรุงของ FF ชื่อชุด "Pray" (คำสวดอ้อนวอน) เป็นเพลงที่ 3 ภายในบรรยายถึงทีน่าคนเดียวตลอดเพลง แล้วตั้งฉายาเธอว่า "Wanderer of Time" ผมไม่ได้คาดหวังอย่างโหดเหี้ยมว่าคุณทั้งหลายต้องชื้อซีดีแผ่นนี้ถึงจะรู้คำตอบ แต่ถ้าใคร (แฟนๆ) เคยตระเวณตามเวบไซท์ต่างๆ เกี่ยวกับ FF แล้วหา MIDI หรือ DIGITAL ของ FF6 ดู (เวบผมก็มี ขอเชิญครับ อิอิ) ก็จะเห็นเพลงนี้อยู่เกลื่อนกลาดให้โหลดแทบทุกเวบ (เพราะมันเป็นเพลง Main theme ที่ไพเราะและโด่งดังสุดของ FF6) ด้วยชื่อ "Wanderer of Time" นี่แหละ พอฟังปุ๊บก็ร้อง อ๋อ ! นี่มันเพลงประจำตัวของ "ทีน่า" นี่นา ?! แค่นี้ก็ตอบได้สบายบรื๋อ...

อะไรนะ ? จะประท้วงว่าเนื้อเพลงในซีดี Pray เป็นภาษาญี่ปุ่นเรอะ ?! อ้าว ! ก็บอกแล้วไงว่าให้ลองเทียบเคียงกับ เพลงประจำตัวละคร หรือโหลด MIDI มาฟังดู มีความสามารถขนาดซื้อแผ่นนี้มาได้ ทำไมจะไม่รู้คำตอบปลายจมูก แบบนี้เล่า คุณเอ๋ย

ตอบ "ริเดีย" ! The one and only !

ก็คำบรรยายทั้งข้อ 14 นั่นหละครับ คือตัวเหตุผลสำคัญที่เคลียร์ในตัวของมันเอง

ริเดียได้รับความสะเทือนใจอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์ที่เซซิลและไกน์ฆ่าแม่แถมเผาหมู่บ้านของเธอต่อหน้าต่อตา เป็นแผลบาดลึกในใจที่เก็บกดสะสมตลอดมา แถมเธอยังเป็นประเภทเก็บซ่อนความรู้สึกเก่ง เข้าใจคิดเข้าใจพูด อย่างตอนที่กิลเบิร์ตคร่ำครวญต่อการตายของแอนนาจนหมดอาลัยตายอยาก ก็คืนสติทันควันเพราะคำพูดประโยค เดียวของริเดีย

"คุณเป็นผู้ชายและโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ ! ไม่ใช่มีแต่คุณคนเดียวที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่ รักไปหรอก !"
You are a man ! You are a grown-up ! You are not the onlyone who has lost loved ones !
คำพูดที่ออกจากปากของเด็กอายุ 7 ขวบ น่าทึ่งใหมครับ ?

เธอทนเห็นการพรากจากอย่างโหดร้ายต่อไปอีกไม่ไหว และมาระเบิดอารมณ์ (น้ำตา) ออกตอนที่นินจาเอจทำซ่าไม่ กลัวตาย จะไปลุยเดี่ยวกับศัตรู จนทุกคนตกใจ ไม่นึกว่าริเดียที่สงบเงียบจะหลุดแบบนี้ เอจเองก็รีบปลอบแทบไม่ทัน (คงหลงรักตอนนี้หล่ะมั้ง ^^) ส่วนเรื่องพรสวรรค์ด้านเวทย์มนต์นั้น จอมปราชญ์เทอร่าเองก็ถึงกับเอ่ยปากพยากรณ์ ไว้ตอนพบกันครั้งแรก ถ้าจะเทียบกับตัวละครภาคอื่นๆ แล้ว คุณเห็นใครอีกหรือเปล่าล่ะครับ ที่สามารถใช้มนต์ดำ มนต์ขาว และมนต์อสูร ทั้งสามชนิดโดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ช่วย

เครื่องยืนยันสติปัญญาอย่างเป็นรูปธรรมของริเดียอีกประการหนึ่งก็คือ "ค่าสเตตัส"(status) เวลากด X ในหัวข้อความฉลาด (wisdom) นั่นแหละครับ สูงกว่าใครเพื่อนเชียว

ข้อนี้สะใจจริงๆ ใครคิดว่าผมไม่รู้จักเลือก FF ภาคอื่นมาเป็นคำถาม คิดผิดซะแล้ว ฮ่าๆๆๆ แล้วหลงกลตอบ "เอริส" ตามที่ขุดหลุมไว้เป็นพรวน สำหรับคนที่ไม่ทราบหรือลืมไปแล้ว เอเรียเป็นตัวละครสำคัญของ FF3 ทีเดียว มีฉายาว่า "หญิงสาวแห่งสายน้ำ" (The Maiden of Water) ถึงจะรับบทไม่มาก โผล่มาแค่ 5 นาทีตาย (คุณ Elna ผู้ซึ่งตอบถูกบ่นมา อิอิ) แต่สแควร์ชอบเธอมาก ถึงขนาดแต่งเพลงประจำตัว แถมปรับปรุงไม่รู้กี่เวอร์ชั่น บทบาทของเธอก็ซาบซึ้งทีเดียว ตามคำพรรณาเป๊ะๆ ครับ ตอนแรกเธอสลบด้วยพิษไข้ซึ่งเราช่วยเธอให้คืนสติด้วย ยาแก้พิษ เธอจึงร่วมทางเพื่อใช้พลังคริสตัลเปิดประตูสู่วิหารแห่งน้ำ และท้ายสุดเธอก็เอาร่างเข้ากันลูกศรซึ่งศัตรู ยิงมาใส่พระเอกจนต้องเสียชีวิต

สำหรับผู้ตอบว่าเอริส มีเหตุผล 3 ประการที่ผิดพลาด ประการแรกคือ เราไปหลั่งน้ำใส่เอริสที่ใหนมิทราบ ไม่เห็นมีเลย ประการที่สองคือ เธอไม่ได้ใช้พลังคริสตัลครับ เธอใช้มาทีเรียต่างหาก แล้วประการสุดท้าย เธอก็ไม่ได้ตั้งเจตนาสละชีวิตปกป้องใครด้วยซ้ำ (เพียงร่ายคาถาศักดิ์สิทธิ์โฮลี่) แต่เซฟิรอสแอบติดตามเธอไปเงียบๆ รอให้คลาวด์เป็นคนลงมือฆ่าเอริสในวิหาร แต่คลาวด์กลับพ่ายแพ้อำนาจความซื่อตรง จริงใจของเอริส ประกอบกับเสียงห้ามของทีฟา เซฟิรอสเลยฆ่าเอริสซะเอง

เสียงจากมุมมืด

อ้าวเฮ้ย ! เอเรียเป็นตัวละครหลักหรือฟะถึงได้เอามาตั้งคำถาม ?

ก็ผมไม่เคยบังคับซักคำว่าคำตอบต้องเป็นตัวละครหลัก อย่าโวยวายสิคุณ ผมเองยังเล่น FF3 ไม่ถึง 1 ส่วน 10 ด้วยซ้ำ

ส่วนใหญ่พร้อมใจกันตอบ 5 คน นี่คงเหมารวม "ราชาอเลกซานเดอร์" แห่งไทคูนเข้าไปด้วยสินะ เพื่อความเข้าใจอันดีขอเรียนว่า นักรบแห่งแสงอรุณ เขาหมายเอาตัวแทน "นักรบแห่งคริสตัล" ซึ่งตำนาน FF5 มีคริสตัล ดิน น้ำ ลม ไฟ รวม 4 ชนิดเท่านั้นครับ !

ในอดีต นักรบแห่งแสงอรุณคือ กราฟ เซซ่า เคลเกอร์ และโดกัน (พ่อบัทซ์) ร่วมมือกันปราบเอกเดสลงได้สำเร็จ และผลึกมันไว้กับศิลายักษ์เกื้อหนุนด้วยพลังคริสตัลทั้งสี่ ตราบจนถึงปัจจุบันที่สี่นักรบเสียชีวิต จึงทำการถ่ายทอด (ด้วยร่างวิญญาณ) สู่นักรบรุ่นใหม่ซึ่งก็คือพวกบัทซ์ คราวถูกเอกเดสดูดเข้าสู่หลุมดำนั่นเอง เขาประกาศถ่ายทอด อย่างเป็นทางการเวลานั้น ! ราชาแห่งไทคูนแม้จะมีวีรกรรมในอดีตอยู่บ้าง แต่มิใช่ระดับผู้กล้า ราชาไทคูนมาโผล่เอา จังหวะสุดท้ายเพื่อหยุดเอกเดสที่กำลังสร้างหลุมดำระลอกใหม่ เปิดโอกาสให้พวกบัทซ์จู่โจมโดยสะดวก

อย่าลืม นักรบแห่งแสงอรุณก็คือ ผู้ที่คริสตัลเลือกสรรค์ไว้แล้ว ชื่อรุ่นของพวกบัทซ์ถูกขนานนามว่า "นักรบแห่งแสงสว่าง" มีสมาชิกดังนี้
บัทซ์เป็นตัวแทนคริสตัลม (การแสวงหา)
เลน่าเป็นตัวแทนคริสตัลน้ำ (ความเมตตา)
ฟาริสเป็นตัวแทนคริสตัลไฟ (ความกล้าหาญ)
เคลเป็นตัวแทนคริสตัลดิน (ความหวัง)

ข้อ (1) โปโกะเป็นชื่อโจโกโปะคู่ใจของบัทซ์ในเกมส์ FF5
ข้อ (2) แฟนๆ คงรู้จักกันดี มันคือสุนัขสีดำขลับของรีนัว นางเอกเกมส์ FF8 นั่นเอง
ข้อ (3) ตัวนี้ก็สุนัขดำ แต่เป็นของชาว์โดใน FF6
ข้อ (5) มาดีนเป็นอสูรรูปร่างคล้ายมนุษย์ และเป็นพ่อแท้ๆ ของทีน่า (ทีน่าเป็นลูกครึ่งระหว่างมนุษย์กับอสูร) ถ้าจำไม่ได้ ขอให้ลองใช้ "ผลึกอสูร" เรียกออกมาชมนะครับ

ข. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ชื่อของมนุษย์ที่มีตัวตนใน FF6 ?

ตอบ (3) ชิโรม่า (ใครเอ่ย ?)

ข้อนี้คงทำให้หลายคนปวดหัว เพราะชื่อแต่ละคนออกจะดูแปลกๆ ไม่คุ้นหูทั้งนั้น แต่คนตอบข้อ 4 นี่แย่สุดแล้วครับ จักรพรรดิ์กาซโทร่าเขาเป็นถึงว่าที่หัวหน้าใหญ่ของเกมส์เลยนะ สงสัยจะอ่านโจทย์ผิด ก่อนอื่นขอย้ำเตือนความทรงจำคนอื่นๆ ซึ่งมีตัวตนกันก่อนดีกว่า ว่าพวกเขาเป็นใครมาจากใหน สัมพันธ์กับเนื้อเรื่องตอนใด

"ดาริล" เป็นแฟนเซทเซอร์ เจ้าของเรือเหาะฟอลคอน ตอนที่เราบุกเข้าไปหาเรือเหาะใหม่ สถานที่มืดทึมนั้นคือ หลุมศพของเธอ (Darill's Tomb) ตอนท้ายก็ต้องซัดกะ เจ้าปีศาจดูราฮาน (ปีศาจรูปร่างคล้ายตัวในโคโลเซียม เวลาเดิมพันดาบแรคน่ารอค) ระหว่างลงบันไดเซทเซอร์ จะหวนรำลึกถึงความหลังที่ดาริลใฝ่ฝันว่าจะนำเรือเหาะ บินไปให้ไกลสุดขอบฟ้า ต่อมาเซทเซอร์ได้ข่าวอีกครั้งว่า เรือเกิดอุบัติเหตุตกอยู่ในแดนไกลแสนไกล ไม่มีใครรอด ชีวิตเลย เนื้อเรื่องเกี่ยวกับเธอมีเท่านี้

ภาพด้านซ้าย คือตอนที่เซทเซอร์เล่าถึงความเป็นมาของ ดาริลและยานฟอลคอนให้เซรีสฟัง

ไม่ใช่ซิกฟรีทใน Soul Caliber หรือซิกฟรีทใน Wild Arms นะครับ "ซิกฟรีท" ใน FF6 เป็นโจรที่ชอบมา ชิงสมบัติตัดหน้าเราเสมอ เช่น ในรถไฟผี (ปรากฏตัวครั้งแรก) ในถ้ำเซาท์ฟิกาโร่หลังโลกแตก มันเก็บสมบัติตัดหน้า ซะเกลี้ยงไม่เหลือเผื่อเราซักชิ้น (ปรากฏตัวครั้งที่สอง) เหตุผลที่ทำเพราะเขาใฝ่ฝันจะเอาสมบัติที่บากบั่นขโมยจาก ทั่วสารทิศมาเปิดโคโลเซี่ยมให้คนเดิมพัน พูดง่ายๆ ก็คือซิกฟรีทเป็นเจ้าของโคโลเซี่ยมนั่นเอง ขนาดออลโตรอส (ปลาหมึก) ซึ่งไม่มีเงินจ่ายก็ยังโดนจับให้ทำงานใช้หนี้ที่นี่ ยุติบทบาทศัตรูคู่อามาต นับว่าสมบัติที่แย่งเราไปก็ไม่ได้ สูญเปล่าซะทีเดียว

ส่วน "กังโฮ" นี่ค่อนข้างลึกลับกว่าใครเพื่อน คนที่จะรู้จักเขาได้ต้องผ่านเนื้อเรื่องเสริมของสตราโกส กังโฮเป็นเพื่อนเก่าสมัยหนุ่มของสตราโกสที่ร่วมไล่ล่าสัตว์ร้ายฮีดอนในตำนานเคียงบ่าเคียงไหล่เมื่อหลายสิบปีก่อน เราจะพบเขาในหมู่บ้านซามาซ่าก่อนโลกหายนะซึ่งต้องมาเยือนด้วยเรือเหาะ และภายหลังโลกแตกหากเรากลับมาหาเขาอีก เขาจะบอกให้เราทราบว่าสัตว์ในตำนานยังมีชีวิตอยู่ และขอร้องให้ สตราโกสกับริลม์ช่วยสะสางภารกิจนี้แทน บทสรุปเรื่องราวนั้นหักมุม แต่ต้องเล่นเอาเองครับ

สุดท้ายก็คือ "ชิโรม่า" บุคคลซึ่งไม่มีตัวตนในเกมส์ FF6 แต่มีตัวตนในเกมส์อื่นของสแควร์ครับ ! ใครจำสาวน้อยนักเวทย์มนต์ขาวซึ่งถอดแบบ (ทั้งรูปร่างหน้าตาและนิสัย) จากเลน่า (FF5) ในโจโกโปะดันเจี้ยนซีรี่ส์ได้บ้าง ? เท่าที่สังเกตุ ผมคิดว่าสแควร์ชอบตัวละครตัวนี้ (ลักษณะนี้) เป็นพิเศษ และผมเองก็ชอบเช่นกัน ตอนวางขายใหม่ๆ ถึงขั้นเอาภาพเลน่าในอาชีพนักเวทย์มนต์ขาวมาวางคู่กันทีเดียว เลยนำมาเป็นคำถามให้งงเล่น ใครสงสัยว่าชิโรม่า เป็นอย่างไร ก็ลองชมจากรูปด้านขวาและล่างดูนะครับ เป็นไง เหมือนเลน่าใช่ใหม และผมก็เอารูปมุมขวา ล่างของเธอมาแต่งเล่นด้วย Photo Shop ชื่อว่า "Under the Midnight Stars"

ชัดในคำเฉลยแล้วครับ ใครที่ตอบเข้าข่ายนี้เพียงข้อใดข้อหนึ่ง หรือบรรยายเกี่ยวกับเนื้อเรื่องได้ถูกต้อง อย่างที่ท่านหนึ่งตอบว่า "เป็นเมืองที่มีประชาชนพูดถึงปราสาทวอล์ส" ผมก็ให้คะแนนเต็มเช่นกัน สำหรับบางท่านที่ ตอบภาคของเกมส์ถูกต้อง แต่นึกความสำคัญไม่ออกจึงตอบตำแหน่งเมืองมาแทน เช่น อยู่ทิศเหนือของวอล์ส เป็นต้น กรณีนี้ผมให้ 0.75 คะแนนนะ (คำถามหลังได้ 0.25 คะแนน)

เมืองนี้มีความสำคัญอีกอย่างก็คือ เป็นเมืองที่มีโลหะชั้นเลิศชื่อ "อันดามันไทต์" อยู่ในเหมืองแร่ ข้างหมู่บ้าน ซึ่งต้องใช้เรือเหาะขนยานโฮเวอร์คราฟมาลงแล้วขับเลาะโขดหิน เข้าไปโลหะนี้ใช้ เป็นวัสดุตีดาบเอกส์คาริเบอร์กับชุดเกราะอันดามันต์ได้ที่บ้านช่างตีเหล็ก

ความจริงคำตอบข้อนี้ลำบากที่การหาชื่อเมืองมากกว่า เพราะขนาดผมเล่น FF4 จบเกือบ 3 รอบ (ญี่ปุ่น 2 อังกฤษ 1) ไอ้เมืองนี้ยังเป็นเมืองเดียวที่ผมไม่รู้จักชื่อทั้งๆ ที่จำสถานที่บนโลกได้หมดแล้ว เพิ่งมารู้ตอนอ่านบทสรุป ภาษาอังกฤษ เลยนำจุดมืดบอดมาตั้งเป็นคำถามครับ

ตอบ เมืองจาโคล

เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความสัมพันธ์กับอารยธรรมลองกามากที่ สุดในโลก มีความเชื่อว่าชาวเมืองบางคนสืบเชื้อสายมาจากชาวลองกา (หยั่งกะชาวมายา) ภายในเมืองพลุกพล่านไปด้วยนักสำรวจ นักผจญภัย และนักโบราณคดี ภายนอกอยู่ติดกับถ้ำลับที่ไม่มีใคร เคยไขปริศนากลไกชั้นในสุดของมันได้ (ภายหลังจะพบว่ามันเชื่อม ติดกับวิหารโอดีน) ทิศเหนือจะพบทะเลทรายร้อนระอุและปีระมิด ส่วนปราการลอยฟ้าที่ว่านี้ คือเทคโนโลยี่ลับของชาวลองกา อันสถิตย์อยู่ใต้พิภพ ถูกขับเคลื่อนให้ลอยขึ้นมานั่นเอง คนที่มาเหนือตอบว่า "เมืองร้าง" ผมก็ยอมรับโดยสดุดี เพราะคำตอบนี้เจาะลึกยิ่งกว่าจาโคลเสียอีก (เพียงแต่มันเป็นเมืองร้าง ไร้ผู้คนและบ้านเรือนเสียแล้ว ครั้นจะเรียกว่าเมืองอย่างเต็มปากเต็มคำ มันก็กระไรอยู่)

"ปราการลอยฟ้า" ศัพท์นี้ใช้เพื่อตั้งคำถามเฉยๆ ควรจะเรียกให้ถูกต้องตามเนื้อเรื่องว่า"โบราณสถานลองกา"

ตอบ เมืองอูไทของ FF7

"...during the war. My husband was sent to the front. Some far away place called Wutai."
"What happened to the mighty Wutai I used to know ?"
"Before I was born, Wutai was a lot more crowded and more important..."
"You saw what it looks like now, right ? ...JUST a resort town..."
"You too, dad...! Just because you lost the war!" "And turning Wutai into a place like this !"
"You turned Wutai into a cheesy resort town peddling to tourists..."
"We people in Wutai believe in the Water God" "The Water God is a huge snake"
"How dare you !? Da-chao Statue and Leviathan are ashamed !!"

อ่านประโยคเหล่านี้แล้วท่านจะสิ้นสงสัย ! เรื่องราวการทำสงครามกับชินระในอดีต ปัจจุบันเหลือสถานะเป็นแหล่ง ท่องเที่ยวสามารถฟังได้จากแม่ของเอริสและพ่อของยัฟฟี่ ส่วนเรื่องราวเกี่ยวกับ เทพเจ้าแห่งน้ำก็หาได้จากเจ้าของ ร้านอาหาร "Turtle Paradise" และชาวบ้านคนอื่นๆ

ตอบ เมืองโซโซจาก FF6, เมืองลูเวนจาก FF1 และคุกทะเลทรายใต้โกลด์ซอเซอร์จาก FF7

เพราะผู้คนที่นั่นต่างโกหก มั่วข้อมูลกันแทบทุกคนชนิดหาความสัจจริงกันไม่ได้ จนโซโซถูกประนามจาก เมืองผู้ดีจีโดล (มีหลักฐานเป็นบทสนทนาในเกมส์) ส่วนเมืองทะเลทรายและลูเวนมีลักษณะคล้ายๆ กันครับ (จึงอนุโลมให้) ข้อนี้ตอบชื่อใดชื่อหนึ่งก็รับคะแนนเต็มครับ

ตอบ (4) มาโทย่า

ข้อ (4) มาโทย่าเป็นชื่อเดียวที่เป็นถ้ำจากทั้ง 5 ข้อ อยู่ใน FF1 จุดเด่นอยู่ที่เพลงซึ่งเป็นเอกลักษณ์ติดหู จนถูกแปลงเป็นหลายเวอร์ชั่นในเวลาต่อมา นอกนั้น
ข้อ (1) มัวห์ เป็นป่าใหญ่มหัศจรรย์ (ป่าที่มีจิตวิญญาณ) จาก FF5
ข้อ (2) โอดานิลด์ เป็นภูเขาที่พิสูจน์ความเป็นพาลาดิน (อัศวินแห่งแสงสว่าง) จาก FF4
ข้อ (3) กองกาก้าเป็นหมู่บ้านเกิดของแซคใน FF7
และข้อ (5) เทียร์พอยท์ จุดที่ปรากฏการ์ณน้ำตาจันทราจะไหลมารวมกัน เป็นสถานที่ของ FF8

ตอบ (2) โกลเบซ่า

โกลเบซ่า เป็นศัตรูหลักจนถึงประมาณ 3/4 ของเกมส์ FF4 ภายหลังเราพบว่า เขาคือพี่ชายแท้ๆ ของเซซิล ซึ่งหัวหน้าใหญที่แท้จริงคือเซโรมุส นอกนั้น
ข้อ (1) คาออสเป็นหัวหน้าใหญ่จาก FF1
ข้อ (3) เคฟก้าเป็นหัวหน้าใหญ่จาก FF6
ข้อ (4) เซฟิรอสเป็นหัวหน้าใหญ่จาก FF7
และข้อ (5) อัลทิมิเซียเป็นหัวหน้าใหญ่จาก FF8

ตอบ (1) ไกเซอร์ดรากอน .... วานผู้รู้มาช่วยตรวจสอบทีครับ ?

รู้สึกสงสัยเหมือนกัน เห็นทุกท่านเทตอบซิลดร้าจึงชักไม่มั่นใจว่าไกเซอร์ดรากอนเคยเผยโฉมใน FF ภาคใหนอีกรึเปล่า (โดยเฉพาะภาค 2-3 ) ถ้าเคยช่วยแก้ให้ผมด้วยนะ จะได้ยกข้อนี้เป็นโมฆะ ไกเซอร์ดรากอนนี่ผม ตั้งใจฉกจากตระกูล Breath of Fire มาหน้าด้านๆ

FF5 มีมังกรสำคัญอยู่ 2 ชนิด คือ มังกรบินกับมังกรน้ำซิลดร้า (อยู่ในตัวเลือกทั้งคู่) ซิลดร้าถือเป็นมังกรคู่บารมีเกมส์ FF5 เลยทีเดียว สังเกตุโลโก้และไตเติลของ FF5 ที่มีรูปมังกรยืนอยู่หลังตังอักษร "Final Fantasy V" สิครับ ผมเดาว่าตัวนั้นแหละซิลดร้า (ถ้าไม่ใช่ก็ไม่รู้ว่าจะให้เป็นตัวใหนแล้ว) มันสามารถโจมตีศัตรูด้วยการพ่นสายฟ้า และเกล็ดน้ำแข็งอันร้ายกาจ เป็นคู่หูของฟาริส ตัวที่ร้องเสียงดังๆ แล้วทำหน้าที่ลากเรือโจรสลัดน่ะ จำได้ใหม ?

เปิดประเด็น

ซิลดร้ามันตัวคล้าย ๆ ไดโนเสาร์ อะไรซอรัสไม่รู้ มีครีบด้วย ไม่น่าจะเป็นมังกรนะ

ใช่แล้วครับ ซิลดร้าเป็นมังกรที่มีครีบรูปร่างคล้ายๆ พวกเนสซี่ทีเดียว (คงเป็นเพราะใช้ว่ายน้ำ) ดังนั้นตัวที่มีขาแบบ ในโลโก้อาจไม่ใช่ซิลดร้า การตัดสินจากรูปร่างภายนอกบางทีก็ลำบากเหมือนกันนะ อย่างริเวียธัน (ริไวอาซัน) นี่หลายคนรู้จักในนามมังกรน้ำ แต่รูปร่างมันก็เหมือนงูยักษ์ เพราะมังกรที่อาศัยอยู่ในน้ำย่อมจะมีสรีระที่แตกต่างกับ ตัวที่อาศัยบนบก จะมีครีบบ้าง ลำตัวยาวบ้าง คล้ายปลาบ้าง อันนั้นก็สุดแล้วแต่พันธุ์

เพื่อความหนักแน่น ผมพบข้อมูลในหนังสือภาษาไทยของบริษัทที่เคยผลิตหนังสือชื่อ "Project game" ในอดีต ประมาณ 6-7 ปีมาแล้ว และเขาได้จัดทำ Project Game Special เล่มพิเศษราคา 40 บาท (มหาถูกถ้าเทียบ กับคุณภาพ) เป็นสีทั้งเล่ม ที่สำคัญ เขาลอก และแปลจาก Guide book ของญี่ปุ่นหยั่งกับถ่ายเอกสารทีเดียว !! เล่มนั้นหลายท่านน่าจะเคยซื้อหรือผ่านตาตอนช่วงนั้นและเก็บรักษาไว้จวบจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ในหนังสือหน้า 29 ระบุถึงประวัติซิลดร้าว่าเป็น "มังกรทะเล" ในอดีตก่อนอยู่กับฟาริส ! แต่แค่นี้ย่อมมีคนไม่ยอมรับ หาว่าหนังสือ ภาษาไทยอาจมั่วข้อมูลเอาเอง ผมเลยไปสืบค้นต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นจนพบ (ซึ่งเล่มไทยนี้ได้คัดลอกมา) เป็นของคุณ J-Renderer ผมเลยให้คุณ J-Renderer ซึ่งมีความรู้ทางภาษาญี่ปุ่นช่วยตรวจสอบ และคุณ J-Renderer ได้ยืนยันว่าคำแปลซิลดร้าเป็น "มังกรทะเล" นั้นถูกต้อง

โดยในหนังสือ Guide Book ญี่ปุ่นประมาณหน้า 28-30 ที่มีรูปซิลดราตรงมุมบนขวา เขาเขียนเป็นตัวคันจิว่า "มังกรทะเล" ครับ ไม่ใช่ไดโนเสาร์ ใครที่มี Guide book เล่มนี้สามารถตรวจดูได้เสมอ

เสียงจากมุมมืด

แล้วรูปในโลโก้น่ะมันฮิริวไม่ใช่หรือ ? ซิลดร้ามีปีกได้ยังไง ?

ถูกของคุณแฮะ สงสัยผมจะมั่วเอง ดูภาพของอามาโน่รูปซ้ายล่างสุดยิงชัดเจน และในโลโก้รูปกลางมังกรตัวนั้นมีปีก คงไม่ใช่ซิลดร้าแน่แล้วหล่ะ ไม่ใช่ซิลดร้าก็ต้องเป็นฮิริว เพราะใน FF5 มีมังกรเด่นๆ อยู่แค่สองชนิด แต่จากภาพ ขวาสุดจะสังเกตุเห็นว่าฮิริวในเกมส์จะมีขาหน้าที่ลีบเล็กกว่าขาหลังมาก แต่ในโลโก้จะเหมือนพวกสัตว์เดินสี่ขา

ตอบ "โอเมก้า" หุ่นจักรกลในตำนานที่ไม่มีต้านทานได้

นอกจากคัมภีร์ที่ระบุไว้ ความร้ายกาจของมันผู้เล่นทุกคนประจักษ์ดี

เปิดประเด็น

แล้วชินริวล่ะ มันก็ถูกระบุในคัมภีร์เหมือนกันมิใช่หรือไง ?

ครับ ถ้าใครตอบชินริวก็ถือว่าถูกเหมือนกัน เพียงแต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยอยากยอมรับซักเท่าไหร่ว่าความร้ายกาจของ มันเทียบเท่าโอเมก้า ถ้าเราหาจุดอ่อนของมันได้ มันก็จะไม่ใช่ศัตรูที่ไร้เทียมทานอีกต่อไป (แต่ก็เก่งกว่าเอกเดสอยู่ดี นั่นแหละ) ส่วนไอ้โอเมก้านี่นรกส่งมาเกิดจริงๆ ไร้ซึ่งจุดอ่อน ขนาดยืมเซฟของเพื่อนที่ใช้ Action Replay LV 99 ยังแพ้ยับเลย

จากหลักฐานในคัมภีร์โบราณบันทึกไว้ว่า
"มันลงมาจากฟากฟ้า เจ้าตัวที่ไม่มีหัวใจโอเมก้า และผู้ที่ตามมันมาชินริว ขนาดผู้กล้าทีครอบครองศาสตราวุธในตำนานทั้ง 12 ชนิด ยังสู้มันไม่ได้ ปล่อยมันไว้ในรอยแยกแห่งมิติจะเป็นการดีที่สุด"

และเมื่อเอาชนะโอเมก้าได้สำเร็จ จะได้ไอเทม "Decoration of Omega" ที่จารึกว่า
"Your wisdom, courage, and power have beaten the ancient technologies" ในขณะเดียวกันหากชนะชินริวจะได้ไอเทม "Emblem of Dragon" ระบุว่า
"This praises your honor of defeating the strongest dragon" ซึ่งคำจารึกจากตราทั้งสองก็ไม่ได้บ่งชี้ว่าใครเหนือกว่าใคร ดังนั้นหากข้อนี้ใครตอบชิวริวพ่วงมาด้วย แสดงว่าท่าน รู้จริง จะขอให้ Special Bonus + 0.5 คะแนนครับ

ข้อนี้ขอขอบคุณๆ Max ที่เอื้อเฟื้อข้อมูลในทุกๆ ด้านครับ

ตอบ รถไฟวิญญาณ (FF6), วิญญาณชนเผ่าไก (FF7), นายพลตัวปลอม (FF8),
บอสเฝ้าทะเลสาบเกลือ (FF8) และอื่นๆ (เลือกมาชื่อเดียวพอ)

ส่วนใหญ่จะเป็นเผ่าพันธุ์ซอมบี้หรือภูติผีที่ตายในครั้งเดียวเมื่อถูกไอเทมประเภทชุบชีวิตหรือฟื้นพลังสมบูรณ์ อย่างเช่น หางนกฟีนิกส์หรืออีริกเซอร์ และแต่ละซีรีส์ยังมีบอสอีกหลายตัวพ่ายแพ้มนต์กาลเวลาอีกจำนวนมาก เช่น อเลกโซล (ปีศาจความฝันของ FF6) นักเลียนแบบโกโก้ใน FF5 (ไม่ชัวร์) ที่มนต์เดชั่นสามารถดูดกลืนมันภายใน ครั้งเดียว เป็นต้น

เปิดประเด็น

เราสามารถชนะโกโก้ใน FF5 ด้วยการอัดมันจนยอมแพ้ได้หรือไม่ ?

คุณ Nihil เผยแพร่เทคนิคนี้ไว้และผมเห็นว่าน่าสนใจจึงลอกมาฝากท่านทั้งหลาย ไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้เหมือนกัน ขอซูฮกจริงๆ

ถ้าเราโจมตีปกติ จะเจออัดกลับด้วยมนต์น้ำเงินท่า "????" ถ้าใช้เวทมนต์ จะเจอสวนด้วยเมเทโอซึ่งคงสังเกตุได้ว่า การเลียนแบบของเขาเป็นคาถา แน่นอน MP เขาคงไม่จำกัด แต่ถ้าทำให้ติดใบ้ละ ?! แน่นอนว่าคาถาไซเลสคงเจาะ ไม่เข้าแน่ เพราะฉะนั้น ดาบมนต์ ไซเลส กับ มิดาเรอุชิ จึงเป็นคำตอบสุดท้าย ! ใช้ดาบมนต์ไซเลสที่ฟันแล้วใบ้ แล้วใช้อะบิลิตี้มิดาเรอุชิ แค่นี้ก็โดน 100 % เรียบร้อย พอโกโก้ติดใบ้ เขาก็ทำอะไรเราไม่ได้เลย ทีนี้ก็ประเดิมรายการ ยำแหลก หุๆๆๆ แต่แน่นอนว่าใบ้อยู่ไม่นาน ให้คอยทำให้เขาติดใบ้ไปเรื่อยๆ ด้วย จน HP เขาหมด เขาจะยอมแพ้เรา และใช้เดชั่นหนีไป

ถ้าใครเห็นว่าเหนื่อย ก็รออยู่เฉยๆ หรือเล่นงานมันด้วยเดชั่นดีกว่าครับ สบายใจกว่าเยอะ !

ตอบ .......... (อิอิ... มาลุ้นในเหตุผลก่อนดีกว่า)

ผมถามว่า หัวหน้าใหญ่ ! ขอย้ำครับ "หัวหน้าใหญ่" !!! แบบที่ฆ่าแล้วฉากจบขึ้นทันที ไม่ใช่บอสลูกกระจ๊อก ธรรมดาทั่วไปในเกมส์ ! เห็นทุกคนบอกมาแต่ชื่อบอสธรรมดาทั้งนั้น คงจะอ่านคำถามไม่ละเอียดเลยดูพลาดไป (หรือคิดว่าผมตั้งผิดหว่า) ข้อนี้เป็นข้อที่หินสุดในบรรดาโจทย์ 50 ข้อแล้วครับ ถึงเขียนไงว่า ใครตอบได้ผมไหว้เลย หึหึ จะเป็นไปได้หรือที่หัวหน้าใหญ่ของเกมส์จะถูกโอดีนหั่นขาดกระจุยเป็นชิ้นๆ ง่ายๆ ได้ ?

คำตอบก็คือ มัน "เป็นไปได้" ครับ !! แต่ไม่ง่ายเท่าไหร่ เจ้าบอสที่น่าสมเพชตัวนั้นคือเจ้า "นีโอเอกเดส" จาก FF5 ครับ เรามาดูกรรมวิธีการแล่เนื้อเจ้านีโอกันเถอะ

ขั้นแรก พึงสังวรณ์ว่า มนต์อสูรโอดีนซึ่งถูกเรียกด้วยอาชีพ "นักเรียกอสูร" โดยตรง ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะตัด เนื้อเจ้านีโอเข้าได้ (หนังมันเหนียว) ทำได้อย่างมากก็ขว้างหอกใส่ ฉะนั้นต้องดูต่อขั้นที่สอง

ขั้นที่สอง ให้ผู้เล่นหาโจโกโปะเหลืองที่เราทิ้งมันบนแผนที่โลกที่ใหนซักแห่งหนึ่งแล้วขี่มันไปบริเวณน้ำตกอิสตรี้ (เริ่มนึกลู่ทางออกหรือยังครับ ?)

ขั้นที่สาม โจโปะเหลืองสามารถวิ่งฝ่าลำธารขึ้นสู่ยอดน้ำตกได้ บนยอดนั้นเราจะพบไอเทมลับชนิดหนึ่งซึ่งใช้แรนดอม (สุ่มเรียก) อสูร รู้สึกไอเทมนั้นภาษาไทยจะชื่อ "ตะเกียงวิเศษณ์"

ขั้นที่สี่ กลับมาหาเจ้านีโออีกครั้งแล้วพยายามใช้ไอเทมนี้หลายๆ หนจนมันสุ่มเทพโอดีนออกมาได้สำเร็จ ด้วยอำนาจพิเศษของไอเทม โอดีนที่ออกมา (efficiency = 100%) จะสามารถหั่นเนื้อเจ้านีโอขาดเป็นวิ่นๆ ได้อย่างดงาม !

ขั้นที่ห้า จงหัวเราะอย่างสะใจกับสภาพน่าทุเรศและความหมดฟอร์มของหัวหน้าใหญ่ประจำเกมส์ แต่อย่าเพิ่งตายใจนึกว่าตัวข้าจบเกมส์แล้ว เพราะร่างที่ขาดจะกลับมารวมตัวกันใหม่ดั่งเดิม การต่อสู้ก็ยังคงดำเนินต่อไป แต่เราจะสบายขึ้น เพราะเจ้านีโอ 2 ใน 5 ร่าง ตายด้วยฝีมือโอดีนเมื่อกี้ไปแล้ว !

เทคนิคนี้ใช้ได้เฉพาะกับเวอร์ชั่นเครื่องซูเปอร์แฟมิคอมเท่านั้นครับ ผมลองแล้วรู้สึกว่าสแควร์จะตัดจุดนี้ทิ้งไปในภาค PS ภาษาญี่ปุ่นและ Anthology (จะตัดทิ้งทำไมฟะ ?!) ผมไม่ได้มั่วจริงๆ นะ !

ตอบ คำตอบเดียวกะข้อ 30 นั่นหล่ะ

หลังจากเฉือนมันด้วยโอดีนแล้ว ทำการสุ่มอสูรต่อไปจนอสูรหมูป่า "คาโทเบลปาส" ออกมา หมูป่าจะ สาปเจ้านีโอครึ่งร่างให้กลายเป็นหินจนสลายเป็นผุยผง ขณะที่อีกครึ่งร่างยังลอยเคว้งอยู่ ซักพักร่างที่แตกสลายไป จะคืนชีพดังเดิม อย่างไรก็ตาม ผลจากมนต์หมูป่าทำให้นีโอตัวน้อยตายไปอีกตัวหนึ่ง (จากเดิมที่ตายไป 2 ก็ตายเพิ่ม เป็น 3 ตัว) คราวนี้เราก็สู้สบายขึ้นมากแล้วครับ มันเหลือแค่ 2 ชิ้นส่วนเท่านั้น

ตอบ ใช้มนต์อสูร "คาบังเกิล" ของ FF5 (ภาคอื่นไม่แน่ใจ)

บางท่านยกข้อมูลมาจากในเกมส์ว่า คุณสมบัติของบาฮามุท คือ "Cut through magic defense" ! แหม... แต่ดันลืมใส่คำว่า "all" ไปเสียนี่ (Cut through "all" magic defense) ท่าไม้ตายอันทรงอาณุภาพ อย่างเมก้าเฟลียร์เลยมาตกม้าตายกับจุดอ่อนพื้นๆ ในตระกูลเวทย์สะท้อนทั้งหลาย (เพราะมันทะลุได้เฉพาะการ ป้องกัน "บางอย่าง" ไม่ใช่ "ทุกอย่าง") วิเคราะห์แบบนี้อย่าหาว่ากวนเลยนะ

สำหรับท่านซึ่งตอบว่าใช้รีเฟลคสะท้อนกลับไป ก็เสียใจด้วย แหะๆ เพราะคำถามผมกำหนดเงื่อนไขว่าเลือกคำสั่งได้ เพียงคำสั่งเดียว จากตัวละครเดียว แล้วให้ทั้งกลุ่มพ้นอันตราย ถ้าใช้รีเฟลคก็ต้องท่องถึง 4-5 หน จึงจะครบทีม เนื่องจากเป็นคาถาที่ใช้หมู่ไม่ได้ แถมไม่ทันการณ์อีกต่างหาก ใน FF4 โรซ่าท่องอย่างเร็วที่สุดได้ประมาณ 3 หน ต่ออัตราการปล่อยเมก้าเฟลียร์หนึ่งครั้ง สำหรับคาบังเกิลเรียกเพียงครั้งเดียวก็ปลอดภัยหายห่วง เพราะเปรียบ เสมือนการใช้รีเฟลคติดต่อกัน 4-5 ครั้ง จนครบจำนวนสมาชิกในกลุ่ม และเป็นไปตามเงื่อนไขที่ว่า ใช้คำสั่งเดียว และครั้งเดียวอีกด้วย

ตอบ ของ FF6 โดยต้องแลกกับผลึกโอดีน

แลกในห้องลับซึ่งซ่อนในวิหารที่จมอยู่ใต้พิภพอีกทอดหนึ่ง หลังโลกพังทลายระหว่างเดินทางใต้ดินด้วย ปราสาทฟิการโร่

ตอบ มี 2 วิธี คือ
(1) เก็บจาก "โล่พาลาดิน" ซึ่งจะได้อัลทิม่า x1 เป็นผลพวง
(2) เก็บทีน่าให้ได้ Level 99 แล้วเธอจะสามารถจดจำเวทย์ชนิดนี้ได้ด้วยตนเอง

วิธีการได้โล่พาลาดิน ก่อนอื่นจะต้องนำโล่ต้องสาปมาสวมใส่และต่อสู้จนครบ 255 ครั้ง คำสาปจะถูกถอน และกลายสภาพเป็นโล่พาลาดินซึ่งสอนคาถาอัลทิม่าในอัตรา x1

รีเทิร์นเป็นมนต์แห่งกาลเวลา (มนต์เทา) มีพลังในการย้อนเวลากลับสู่สภาพก่อนการต่อสู้ ซึ่งจอมเวทย์แห่ง กาลเวลาเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ ท่าที่เหลือล้วนเป็นมนต์น้ำเงินดังนี้
ข้อ (1) White Wind เป็นลมสีขาวบริสุทธิ์คอยฟื้นฟู HP ให้เรา มีใน FF เกือบทุกภาค
ข้อ (2) Step Mine นำจำนวนก้าวเดินทั้งหมดในเกมส์มาหาร 32 แล้วเปลี่ยนเป็นเลขโจมตี อยู่ใน FF6
ข้อ (3) Laser เป็นการโจมตีด้วยการยิงแสงเลเซอร์ ใน FF7 เก็บได้จากศัตรูคล้ายแมงมุมที่มีหกแขน ส่วน FF8 จำไม่ได้ว่าได้จากใหน
และข้อ (5) อควอเบลส เป็นการทำลายศัตรูด้วยแรงอัดของน้ำ โดยเฉพาะศัตรูในทะเลทรายจะอ่อนแอต่อท่านี้เป็น พิเศษ มีในหลายๆ ภาคเช่นเดียวกับ White Wind

มาแก้ไขให้นิดนึงครับ Limit LV1 ของเอริสชื่อ "Healing Wind" (ลมแห่งการรักษา) เป็นคนละท่ากับ White Wind ครับ

ซอมบี้เป็นท่าที่ศัตรูใช้เล่นงานเรา แต่เราไม่สามารถจดจำมันไว้ได้ (ต้องรีบรักษาอาการด้วยน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์) ท่านี้ปรากฏใน FF5 ท่าที่เหลือล้วนเป็นมนต์น้ำเงินดังนี้
ข้อ (1) แมจิก แฮมเมอร์ เป็นฆ้อนยักษ์ทุบหัวศัตรูเพื่อดูด MP ปรากฏใน FF7
ข้อ (2) เลเวล 5 เดส มีผลสำหรับศัตรูที่มีเลเวลที่เลข 5 หารลงตัว จะตายด้วยเวทย์เดส ปรากฏตั้งแต่ FF 5 ยัน 8
ข้อ (3) ชาโดว์ เฟลีย เป็นเพลิงระอุสีดำที่คล้ายเฟลียร์ปกติแต่รุนแรงกว่า เก็บได้จากอัลทิม่าเวพพอนใน FF7
และข้อ (4) เข็มพันเล่มนั้นใช้เข็มซึ่งลด HP เล่มละ 1 ยิ่งใส่ 1000 เล่ม เก็บได้จากต้นกระบองเพชร (ซาโบเทนเดอร์) ปรากฏครั้งแรกใน FF6

เมลทอนเป็นเวทย์มนต์ดำโจมตีหมู่ระดับเดียวกับเมเทโอที่ติดมากับผลึกอสูรจีฮาร์ทใน FF6 ครับ ท่าที่เหลือล้วนเป็นมนต์น้ำเงินดังนี้
ข้อ (2) รูเล็ทสู่ความตายสุ่มว่าเมื่อลูกศรตกไปที่ใคร คนนั้นจะตาย พบตลอดใน FF หลังภาค 4
ข้อ (3) ไมตี้การ์ดมีผลเสมือนกับใช้มนต์บาเรียและโปรเทคพร้อมกัน พบใน FF 6-7 (ภาคอื่นไม่ทราบ)
ข้อ (4) เอโร่ คือการโจมตีด้วยกระแสลมหมุนอันแหลมคม ในภาค 5 และ 7 เรานำมาเป็นเวทย์น้ำเงินไม่ได้อย่างที่ บางท่านกล่าวก็จริง แต่ในภาค 6 สตราโกสสามารถจดจำท่านี้ได้ครับ
และข้อ (5) Matra Magic เป็นการซัดด้วยจรวดมิสไซด์เกือบสิบลูกใส่ศัตรูตัวเดียว เป็นท่าของหุ่นยนต์ใกล้ๆ เมืองมิดกัลด์แห่ง FF7 ครับ

ตอบ ดาบ "แรคน่ารอค" ของ FF6

ในบรรดา FF ทั้งมวล ภาคที่อาวุธสามารถใช้พลังเวทย์มนต์โจมตีศัตรูต่อโดยอัตโนมัติหลังจากฟันแล้ว ก็มีแต่ FF6 ภาคเดียว ซึ่งคำถามข้อนี้ก็เป็นคุณสมบัติดาบแรคน่ารอคนั่นเอง สำหรับคุณๆ ที่จำชื่อดาบไม่ได้ เลยตอบแทนว่าหาได้จากโคโลเซี่ยม อันนั้นเป็นดาบ "ไลท์บริงเกอร์" ซึ่งจะซ้ำด้วยเวทย์มนต์ขาวโฮลี่ครับ เลยผิดไปตามระเบียบ

ตอบ เกราะปุยหิมะหนา "สโนว์มัฟฟเลอร์" ได้มาโดยการนำเอาชุด "สูทเบฮีมอส" ไปเดิมพันที่โคโลเซี่ยม

ข้อนี้ผมขุดหลุมดักไว้สองจุด หลุมแรกกะล่อคนตอบว่า "เกราะเก็นจิ" ซึ่งมีพลังป้องกัน (DF) 94

สำหรับผู้รู้มากขึ้นหน่อยก็ดักด้วยหลุมที่สองคือ "เกราะกัปปะ" ที่มี DF 100 เมื่อแปลงร่างเป็นกัปปะ ! แต่สโนว์มัฟฟเลอร์นั้นมี DF ถึง 128 !! ซึ่งนับเป็นสุดยอดของเกมส์โดยแท้ น่าเสียดายที่เกราะนี้ใส่ได้แต่เฉพาะ ตัวละครที่เป็นสัตว์ ไม่ค่อยมีบทบาทต่อเกมส์ ได้แก่ มอค อูมาโร และเกาว์ (อนุโลมว่าเป็นสัตว์ป่า ^^!) สามตัวเท่านั้น ผู้ตอบถูกจึงถือว่าเป็นเจ้าสนามประลองโดยแท้

ขอเพิ่มเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ นะครับ วิธีหาชุดสูทเบฮีมอสโดยไม่จำกัดจำนวน ทำได้โดยให้เราเดินวนบริเวณที่มีเสียง เพลงทำนองคนป่า (อาณาเขตของเกาว์) จนพบ "คิงเบฮีมอส" เป็นศัตรู เมื่อปราบมันได้ บางครั้งเราจะได้ไอเทมเป็น ชุดสูท มีให้เราเก็บได้เรื่อยๆ จึงไม่ต้องกังวลว่าชุดสูทจะขาดแคลนเวลาเอาไปเดิมพันที่โคโลเซี่ยม

ตอบ (2) ดาบแกรนด์ริออน

ดาบแกรนด์ริออน เป็นดาบของอัศวินกบ (คาเอล) ในเกมส์ Chrono Trigger ซึ่งทุกคนที่เคยเล่นคงรู้จัก ดาบเล่มนี้ดีแต่หากใครเล่นภาคอังกฤษดาบนี้จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "Masamune" ซ้ำกับดาบซามูไรประจำ FF เป็นอีกข้อที่ผมแอบเอามาจากเกมส์อื่น

ตอบ (5) ธนูแห่งอัลเทมิส

ธนูในตำนานของปราสาทคูเซอร์คือ "ธนูโยอิจิ" แม้ธนูโยอิจิจะมีศักดิ์ศรีเรื่องอาวุธในตำนานค้ำคอ แต่พลังโจมตีกลับน้อยกว่าธนูแห่งอัลเทมิสซึ่งเก็บได้ภายใต้ชั้นหินน้ำตกอิสตรี้ ธนูแห่งอัลเทมิสเลยเป็นธนูสุดยอดของ เกมส์นี้ ส่วนอาวุธอื่นๆ ที่ยังไม่ได้กล่าวถึง ได้แก่ กระบี่มาซามุเนะ มีดสั้นสังหาร กริชของซาสุเกะ แส้ไฟ ขวานรูน และคฑาพ่อมด

ข้อนี้ไม่เหี้ยมโหดอย่างที่คิดครับ ! ใช้กึ๋นเล็กน้อยแม้คุณจะลืมชื่ออาวุธหมดทุกชิ้นในเกมส์ก็ยังตอบข้อนี้ได้ ในเกมส์ FF5 มีหลากหลายอาชีพซึ่งแต่ละอาชีพต่างก็ใช้อาวุธคนละประเภทตามถนัด เราจะพบว่าอาชีพ "มองค์" หรือนักกังฟู เป็นหนึ่งในอาชีพที่ใช้มือเปล่าเข้าต่อสู้ ไม่มีการติดอาวุธใดๆ เลย ฉะนั้นอาวุธประเภทสวมมือ อาทิ กรงเล็บ สนับมือ ซึ่งมีไว้สำหรับนักสู้หมัดมวยก็ย่อมถูกตัดทิ้งได้โดยปริยาย เราเลยเลือกข้อ (5) โดยพิจารณาเพียง ประเภทของอาวุธซึ่งไม่มีในเกมส์เท่านั้น

ข้อ (3) ดาบเอกส์คาริเปอร์ เป็นดาบที่ได้ในหีบหลังจากสู้ชนะกิลกาเมชในปราสาทเอกเดสแล้ว มีค่าพลังโจมตีสูงมาก แต่พอใช้จริงกลับฟันลดเพียง 1 เหตุผลที่ชื่อคล้ายดาบเอกส์คาริเบอร์นั้น มีเจตนาให้ผู้เล่นเข้าใจผิดระหว่างดาบสอง เล่มนี้ โดยเอกส์คาริเปอร์เป็นของปลอมสั่วๆ

ตอบ ของ "เอดก้า"

เป็นอุปกรณ์ในคำสั่งพิเศษ "Tool" ของเอดก้า ใช้ยิงกระสุนรูปร่างเหมือนไขควงใส่ศัตรู เก็บได้ในหอคอยเวทย์มนต์ 30 ชั้น ซ่อนอยู่ในผนังลับ

ตอบ ไอเทมของ FF4 ใช้รักษาพิษไข้ทะเลทรายของ "โรซ่า"

ไอเทมนี้มีชื่อเรียกกันไปต่างๆ นาๆ ว่า แสงสว่างแห่งทะเลทรายบ้าง ทับทิมทรายบ้าง อัญมณีทรายบ้าง ทับทิมกรวดบ้าง ตามแต่คู่มือหรือบทสรุปเล่มใหนแปลออกมา แต่เกือบทุกคนไม่มีปัญหากับชื่อของมันในการตอบ

ตอบ เรือเหาะ "มาโดเซ็น"

ยานเวทย์มนต์ในตำนานของ FF4 ที่หลับใหลอยู่ก้นมหาสมุทร ภายในห้องเครื่องกลางลำเรือจะมีคริสตัล เป็นแกนกลาง หากกดสำรวจที่คริสตัลเรือเหาะจะมีประสิทธิภาพขนาดพาเราบินไปเยี่ยมดวงจันทร์ได้สบายๆ

ตอบ ใช้โลหะที่ติดมากับดาวตกลูกหนึ่งชื่อ "อันดามันไทต์"

เป็นทฤษฎีของ FF5 ครับ การที่จะขับเรือเหาะเข้าสู่โบราณสถานลองกา ซึ่งลอยสูงเหนือพื้นดินมากได้ จำต้องใช้พลังของโลหะชนิดนี้มาปรับปรุงเรือ

ตอบ 18 ชนิด (หากตอบเกิน 13 ขึ้นไป ก็จะอนุโลมให้เช่นกัน)

ข้อนี้จะว่าผมตั้งได้อย่างสุดแสนโรคจิตก็ยอมรับ แต่ก็ยังอุตส่าห์มีคนที่ ... กว่า ต้องยกความดีความชอบให้แก่ คุณ Elna ในข้อนี้เพราะคุณเธอเล่นตอบได้มากกว่าคำเฉลยเสียอีก พาหนะที่ผมนึกไม่ถึงอย่างเช่น ปลาโลมา ลิฟท์ สโนว์บอร์ด เป็นต้น ผมอยากจะให้ Special Bonus ใจจะขาด แต่กลัวจะวุ่ยวายในการปรับคะแนนใหม่ทั้งหมด เพราะในโจทย์ก็ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้เอาไว้ล่วงหน้า ต้องขออภัยอย่างสูงจริงๆ นะคุณ Elna หึหึ (หัวเราะแบบแฝงความชั่วร้าย)

จะไล่เลียงพาหนะที่ตัวคลาวด์ได้อาศัยทั้งหมดตามลำดับเนื้อเรื่องในเกมส์ดังนี้ครับ
(1) รถไฟ ฉากเปิดเรื่องและใช้เดินทางจากสลัมขึ้นสู่เมืองศิวิไลบนแผ่นโลหะ
(2) ลิฟท์ ในตึกชินระ
(3) มอเตอร์ไซด์ หนีจากตึกชินระ
(4) ปลาโลมา ช่วยพาคลาวด์กระโดดข้ามพ้นสายไฟแรงสูง ตอนปีนเสาไฟฟ้าเพื่อลอบเข้าจูน่อน
(5) โจโกโปะ รู้ๆ อยู่
(6) รถบรรทุก เป็นภาพในอดีตยามคลาวด์เล่าถึงความหลังตอนเดินทางพร้อมเซฟิรอสและแซคแล้วเจอมังกรขวาง
(7) เรือโดยสาร เพื่อเดินทางไปเมืองชายหาด
(8) กระเช้าลอยฟ้า เข้าสู่โกลด์ซอเซอร์
(9) รถเทียมโจโกโปะ หากหลงทางในคุกทะเลยทรายจะมีชายชุดดำเอารถนี้มารับกลับเมือง
(หากใครชำนาญ ไม่หลงในทะเลทรายก็จะไม่พบ จึงอนุโลมให้)
(10) รถบักกี้ ของฝากจากดิโอได้หลังจากผ่านเนื้อเรื่องโกลด์ซอเซอร์
(11) เครื่องบินเล็กไทนี่บรองโก ได้จากซิด
(12) เรือเหาะไฮวินด์ ได้มาหลังเวพพอนบุกจูน่อน
(13) สโนว์บอร์ด ใช้สไลด์ผ่านทางลาดภูเขาหิมะ
(14) รถเข็นคนพิการ ตอนคลาวด์ความจำเสื่อม
(15) รถกระบะ เป็นเนื้อเรื่องความเป็นมาในอดีตของคลาวด์กับแซค
(มีเฉพาะใรภาค International เท่านั้นจึงเป็นอีกข้อที่อนุโลมให้)
(16) เรือดำน้ำ ได้จากฐานทัพเรือใต้ทะเลของจูน่อน
(17) จรวด ถูกยิงขึ้นสู่อวกาศก่อนพวกคลาวด์จะลงยานหนีภัยกลับมาที่โลก
(18) กระสวยอวกาศ ใช้หนีจากจรวดกลับสู่โลก

ตอบ (5) นักเลียนแบบ